18TH WEDDING ANNIVERSARY

วันครบรอบแต่งงานปีที่ 18

วันนี้ คือวันที่ 26 กุมภาพันธ์ เป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งในชีวิตของผม เป็นวันที่ผมได้มีครอบครัวของผมเอง เป็นวันเริ่มต้นของการใช้ชีวิตคู่หลังจากที่ได้ผ่านร้อนผ่านหนาวมาตัวคนเดียวถึง 29 ปี วันนี้ก็คือวันครบรอบวันแต่งงานของผมกับภรรยาที่น่ารักและแสนดี ซึ่งเราได้ใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกันมา 18 ปีแล้ว วันนั้นคือวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2531 Today is February 26. It is one of the most important days in my life. It is the day when I have my own family. It is also the day when I started to live my life as a couple after I had spent my single life for more than 29 years. Today is the 18th anniversary of my wedding day. We had a wedding ceremony on February 26, 1988.            เช้าของวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2531 เราได้ทำพิธีแต่งงานกันที่บ้านที่เราได้ร่วมกันซื้อไว้เป็นเรือนหอ เริ่มต้นด้วยพิธีสงฆ์ตามพุทธศาสนา คือการทำบุญตักบาตรเช้า เสร็จจากพิธีสงฆ์ก็เป็นพิธีหลั่งน้ำสังข์โดยญาติ ผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่าย ซึ่งพิธีในตอนเช้านี้จะมีแต่ญาติๆ ผู้ใหญ่ เพื่อนๆ จะไม่ได้รับเชิญให้มาร่วมในพิธีดังกล่าว เพราะเป็นพิธีการที่จัดขึ้นที่บ้าน จึงไม่สะดวกที่จะเชิญแขกเหรื่อมามากมาย Early in the morning of February 26, 1988 we had a wedding ceremony at our house where we had bought as being our bridal one. The event started with buddhism religious ceremony i.e. merit making. After religious ceremony, it was one of the auspicious ceremonies called "pouring out consecrated water from the conch shell" by elderly and respected relatives. In the morning cession there were no friends joining the ceremony since it was held in a small house. It was inconvenience for them to join.    บ้านหลังแรกที่เราทั้งคู่ได้ร่วมกันซื้อไว้เพื่อใช้เป็นเรือนหอ              พีธีสงฆ์ในตอนเช้าเริ่มด้วยการทำบุญตักบาตร A house we bought as our bridal one. A merit making, one of Buddhism religious ceremony    พิธีหลั่งน้ำสังข์โดยญาติผู้ใหญ่ของแต่ละฝ่าย             ถ่ายรูปร่วมกับคุณพ่อคุณแม่ของทั้งสองฝ่าย                     "Pouring out consecrated water from the conch shell"             Taken photo with our parents            เสร็จจากพิธีสงฆ์ในตอนเช้าแล้ว ก็เป็นงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสในตอนเย็น ซึ่งจัดขึ้นที่โรงแรมอินทรา ย่านประตูน้ำในกรุงเทพฯ งานเลี้ยงตอนเย็นนี้มีแขกเหรื่อรวมทั้งเพื่อนๆ ให้เกียรติมาร่วมเป็นสักขีพยานประมาณ 300 กว่าคน บรรยากาศในงานคืนนั้นก็เต็มไปด้วยความสนุกสนานไม่ต่างอะไรไปจากงานเลี้ยงรุ่น เพราะเพื่อนๆ ที่มาในงานนั้นต่างก็จับกลุ่มคุยกันอย่างเมามัน เนื่องจากไม่ได้เจอะเจอกันมานานโดยไม่ได้สนใจว่าเจ้าบ่าวเจ้าสาวในงานจะทำอะไร After religious ceremony in the morning cession, we also had a wedding party in that evening. The party was held at Indhra Hotel, Pratoonam area, Bangkok. There were about 300 guests participating in that party including relatives and our friends. The general atmosphere on that night was very cheerful. It was not different from alumni party that our friends kept on talking to each other without paying any attention to us.    เหนื่อยมากครับ… ถ่ายภาพออกมาหน้าตาถึงได้เป็นแบบนี้             พิธีกรเชิญทั้งคู่ขึ้นบนเวทีเพื่อกล่าวขอบคุณแขกผู้มีเกี่ยรติ So tired…. you can see from our faces MC asked us to say thank you to our guests    ตัดเค็กแต่งงาน… จำไม่ได้ว่ามือใครอยู่ข้างบนตอนนั้น              หลังจากถูกส่งตัวเข้าห้องหอ…เหนื่อยครับ Wedding cake cutting… whose hand was on top? After being sent back to bridal room…so tired!                   และทั้งหมดก็คือบรรยากาศแห่งวันของการเริ่มต้นชีวิตคู่ ซึ่งคงเป็นครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายของชีวิตนี้ That’s all for the day when we started living our lives as a couple. It may be only once for my life. ********* E N D *********