DRIVING IN NEW ZEALAND

ขับรถเที่ยวในนิวซีแลนด์

 

          หลังจากหายไป 10  กว่าวัน คงเป็นที่ทราบกันแล้วว่า หายไปไหนมา จริงๆ ก็ไปทำธุระนิดหน่อยที่ประเทศนิวซีแลนด์แหละครับ แต่ไหนๆ ก็ไปแล้ว เลยถือโอกาสขับรถสำรวจเกาะใต้ของนิวซีแลนด์ซะเกือบทั่ว นี่ถ้ามีเวลาอยู่ได้นานกว่านี้คงได้ไปทั่วทุกเมืองแน่ๆ  

          จากประสบการณ์ครั้งนี้ ก็อยากจะมาเล่าสู่กันฟัง  เผื่อมีใครสนใจอยากจะไปทำแบบนี้บ้าง จะได้เป็นข้อมูลในการเตรียมตัวครับ …. มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับ จะได้ไม่เสียเวลาอ่านกันจนตาลายไปมากกว่านี้ ก่อนอื่นต้องขอทำความเข้าใจว่า ผู้ที่อยากจะไปเที่ยวด้วยตนเองโดยไม่ได้อาศัยบริษัทนำเที่ยว จะต้องศึกษาหาข้อมูลต่างๆ ด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสถานที่ท่องเที่ยว การจองตั๋วเครื่องบิน การขอวีซ่า การจองที่พัก  และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งผมจะไม่พูดถึงในที่นี้ เว้นแต่จะมีใครสนใจอยากทราบรายละเอียดเรื่องใดโดยเฉพาะ ก็สามารถถามมาทางคอมเม้นท์ได้ครับ แล้วผมจะตอบเป็นเรื่องๆ ไปดีกว่า เพราะถ้าให้เขียนอย่างละเอียดในนี้คงไม่ไหว

          มาเข้าเรื่องของการขับรถเที่ยวในนิวซีแลนด์กันดีกว่า คนที่จะไปขับรถได้จะต้องมี ใบอนุญาตขับขี่ระหว่างประเทศ (International Driving Permit)  ก่อนนะครับ  ถ้าใครยังไม่มีก็สามารถไปขอทำได้ที่ กรมการขนส่งทางบก เลขที่ 1032 ถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจัตุจักร กรุงเทพมหานคร อาคาร 4 ชั้น 2 จะไปยื่นเอกสารด้วยตนเองหรือมอบอำนาจไปก็ได้ นั่งรอประมาณ 1 – 2 ชั่วโมงก็จะได้รับใบอนุญาตดังกล่าว หรือถ้าอยู่ต่างจังหวัดก็สามารถยื่นคำขอเพื่อขอรับใบอนุญาตต่อสำนักงานขนส่งเขตพื้นที่ 1, 2, 3 และ 4 สำนักงานขนส่งจังหวัดหรือสำนักงานขนส่งจังหวัดสาขาทุกแห่งโดยหน่วยงานต่างๆดังกล่าว จะรวบรวมคำขอ พร้อมหลักฐานจัดส่งให้สำนักทะเบียนและภาษีรถดำเนินการแล้วจัดส่งใบอนุญาตให้แก่ผู้ขอทางไปรษณีย์

 หลักฐานที่ใช้ประกอบมีดังนี้

1. ใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคล (ห้าปี) ซึ่งยังไม่สิ้นอายุ หรือใบอนุญาตขับรถยนต์ตลอดชีพ หรือใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะซึ่งยังไม่สิ้นอายุ หรือใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์ (ห้าปี) ซึ่งยังไม่สิ้นอายุ หรือใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์ตลอดชีพแล้วแต่กรณี พร้อมสำเนา
2. หนังสือเดินทางซึ่งยังไม่สิ้นอายุ พร้อมสำเนา
3. บัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรอื่นซึ่งใช้แทนบัตรประจำตัวประชาชนหรือใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวพร้อมสำเนา
4. สำเนาทะเบียนบ้านหรือใบสำคัญถิ่นที่อยู่
5. รูปถ่ายขนาด 4 x 6 ซ.ม. ถ่ายไม่เกินหกเดือนจำนวน 2 รูป
6. เงินค่าธรรมเนียม 505 บาท

          ใบอนุญาตขับขี่ระหว่างประเทศสำหรับรถยนต์ส่วนบุคคลหรือรถจักยานยนต์นี้ มีอายุ 1 ปี ไม่มีการต่ออายุ หากใบอนุญาตสิ้นอายุลง ต้องยื่นคำขอพร้อมด้วยหลักฐานเพื่อขอรับใบอนุญาตใหม่ หากประสงค์จะขอรับใบอนุญาตขับขี่ระหว่างประเทศสำหรับรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ให้ระบุลงในคำขอฉบับเดียวกัน โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมใบอนุญาตเพิ่มเติม

          เมื่อได้ใบอนุญาตขับขี่ระหว่างประเทศมาแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการติดต่อเช่ารถ ซึ่งประเทศนิวซีแลนด์ก็มีบริษัทที่ให้บริการเช่ารถอยู่มากมาย ทั้งที่เป็นบริษัทระดับอินเตอร์ เช่น AVIS หรือ Budget และบริษัทที่ประกอบการในประเทศเอง ซึ่งเราสามารถหาข้อมูลได้จาก website ของบริษัทนั้นๆ และยังสามารถจองผ่านออนไลน์ก็ได้ หรือจะเสี่ยงไปจองที่สนามบินเมื่อไปถึงก็ได้ แต่ถ้าจะให้มั่นใจว่ามีรถขับแน่ๆ ก็ควรจะจองไปก่อนดีกว่า การจองออนไลน์ทางบริษัทจะเก็บค่ามัดจำไว้ก่อน 5% – 15% ของค่าเช่าทั้งหมด แล้วจะเก็บส่วนที่เหลือในวันที่เราไปรับรถพร้อมทำสัญญาเช่าที่นั่น

          ช่วงที่ผมไป ผมก็ลองตรวจสอบดูหลายๆ บริษัท แล้วมาถูกใจที่บริษัท ACE Car Rental ซึ่งราคาค่าเช่าต่อวันถูกกว่าเพื่อน คือรถเก๋งขนาด 1800 ซีซี ค่าเช่าตามที่ลองทำ online quotation ดู ตกวันละ NZ$36.00 (ประมาณ 900 บาท) แต่ผมก็ยังไม่ได้ตัดสินใจจอง เพราะข้อเสียของบริษัทนี้คือไม่สามารถรับ-คืนรถได้ที่สนามบิน ต้องไปรับและคืนรถที่บริษัทของเขาที่อยู่ในเมือง แต่บังเอิญที่พักที่ผมจองไว้ก็อยู่ใกล้ๆ กับบริษัทนี้ ผมก็เลยลองถามพนักงานที่รับจองที่พักให้ผม ซึ่งก็ทราบว่าเขาให้บริการช่วยจองรถให้ด้วย เขาบอกว่าเขาสามารถจองได้ในราคาวันละ NZ$29.00 (ประมาณ 725 บาท) ถูกกว่าที่ผมจะจองออนไลน์ลงมาวันละ NZ$7.00 บังเอิญอีกนั่นแหละครับที่ผมได้สมัครเป็นสมาชิก YHA (Youth Hostels Association) ซึ่งถ้าใครสนใจก็สามารถสมัครเป็นสมาชิกได้ที่ Hi-Thailand เลขที่ 25/14 ถนนพิษณุโลก เขตดุสิต กรุงเทพฯ หรือเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ Thai Youth Hostels Association  อัตราค่าสมาชิกสำหรับบัตรทั่วโลกปีละ 270 บาท ซึ่งสมาชิกจะมีสิทธิเข้าพักในโรงแรมเครือข่ายของ YHA ได้ทั่วโลกในราคาพิเศษ และยังได้รับส่วนลดหรือบริการอื่นๆ อีกมากมาย เช่นบริการจองรถเช่าให้เป็นต้น

          สรุปผมก็ตัดสินใจให้ทาง YHA Christchurch City Central ที่ผมจะไปพักช่วยจองรถเช่าให้ในราคาวันละ NZ$29.00 เป็นเวลา 6 วัน แต่ราคานี้ยังไม่ได้รวมค่าเบี้ยประกันภัยนะครับ ถ้าใครคิดว่าการขับรถที่นิวซีแลนด์ไม่มีอะไรอันตรายจะเสี่ยงเองโดยไม่ต้องทำประกันภัยเขาก็ไม่ว่าอะไร แต่ผมยอมจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยเพิ่มอีกวันละ NZ$13.00 เพื่อความสบายใจดีกว่า เบ็ดเสร็จแล้วผมก็ต้องจ่ายค่าเช่ารถรวมค่าเบี้ยประกันภัยวันละ NZ$42.00 (ประมาณ 1,050 บาท) ก็ถือว่าคุ้มครับ เพราะเขาไม่จำกัดระยะทางในแต่ละวัน ใครที่เช่ารถราคาถูกกว่านี้ก็ตรวจสอบในสัญญาดีๆ นะครับว่าเขามีจำกัดระยะทางการใช้รถต่อวันไว้หรือเปล่า ไม่งั้นเช่าขับระยะไกลๆ ต่อวัน กลับเอารถไปคืนจะถูกเก็บเพิ่มอีกแล้วจะมาปวดใจภายหลัง

          การขับรถในนิวซีแลนด์ก็เหมือนการขับรถในเมืองไทย เพราะขับชิดซ้ายเหมือนบ้านเรา จึงไม่ต้องไปทำความคุ้นเคยอะไรให้ยุ่งยากเหมือนกับการขับรถในอเมริกา หรือประเทศที่ต้องขับชิดขวา แต่ที่ต้องระวังก็คือ ต้องขับรถด้วยความเร็วที่เขากำหนด ซึ่งเราจะเห็นป้ายจำกัดความเร็วเป็นช่วงๆ เช่นในเมืองจะจำกัดความเร็วไม่เกิน 50 กม./ชม พอออกนอกเมืองก็จะให้ขับได้ไม่เกิน 100 กม./ชม. สรุปก็คือ ทั้งประเทศนิวซีแลนด์จะสามารถขับรถด้วยความเร็วสูงสุดไม่เกิน 100 กม./ชม. บางคนที่เคยขับรถในเมืองไทยด้วยความเร็วไม่ต่ำกว่า 120 กม./ชม. อาจจะมีคำถามในใจว่า ไม่รู้สึกหงุดหงิดเหรอ ผมบอกได้เลยว่า ไม่เลยครับ เพราะถึงแม้เราจะขับที่ความเร็วไม่เกิน 100 กม./ชม. แต่ก็ไปได้ด้วยความเร็วขนาดนั้นโดยตลอดเพราะไม่มีการจราจรติดขัดเหมือนบ้านเรา ยิ่งขับออกนอกเมือง ยิ่งเหมือนถนนสายนั้นเราขับอยู่คันเดียว นานๆ จะมีรถสวนมาสักคัน ขับไป ชมวิวไป ผมว่าก็เพลินดีครับ

          มาพูดถึงการจอดรถในเมือง อย่างเช่น Christchurch ถึงแม้รถจะน้อย แต่ที่จอดรถสาธารณะก็น้อยตามไปด้วย ช่วงกลางวันระหว่างเวลา 9.00 – 17.00 น. ถ้าเราจะจอดรถตามที่จอดรถที่เขาตีเส้นขาวไว้ให้ เราจะต้องเสียค่าจอดชั่วโมงละ NZ$2.00 (ประมาณ 50 บาท) ก็ถือว่าแพงเหมือนกัน แต่ถ้าจอดไม่นานแล้วมีคนขับนั่งอยู่ในรถ ก็คงไม่ต้องไปจ่ายค่าจอด (เพื่อนที่นิวซีแลนด์เขาบอกมาแบบนั้น) การจ่ายค่าจอดทำได้โดยเดินไปหยอดเหรียญที่เครื่อง ส่วนมากจะติดตั้งอยู่ข้างทางเป็นระยะๆ เสร็จแล้วเครื่องจะพิมพ์ใบเสร็จออกมาให้ เราก็ต้องเอาใบเสร็จนั้นไปวางไว้ด้านในกระจกบังลมหน้า เพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่บังเอิญผ่านมาตรวจได้เห็น มิเช่นนั้นจะโดนปรับหลายเท่าเลยทีเดียว

          ค่าน้ำมันในนิวซีแลนด์ในช่วงที่ผมไป อยู่ที่ลิตรละ NZ$1.43 (ประมาณ 35.75 บาท) สำหรับเบนซินไร้สารตะกั่ว 91 ซึ่งใช้กับรถนั่งส่วนบุคคลทั่วๆ ไป ก็ถือว่าบ้านเรายังใช้น้ำมันราคาถูกกว่า แต่การที่เขาจำกัดความเร็วไว้ที่ไม่เกิน 100 กม./ชม. และการจราจรที่คล่องตัว ก็ทำให้ประหยัดน้ำมันไปได้เยอะทีเดียว

          ถนนในประเทศนิวซีแลนด์ (เฉพาะเกาะใต้ที่ผมได้ขับมาแล้ว) เช่นทางหลวงหมายเลข 1 จาก Christchurch ถึงทางแยกไปทาง Geraldine ทางหลวงหมายเลข 79 จากทางแยกเข้า Geraldine ไปยัง Fairlie ทางหลวงหมายเลข 8 จาก Fairlie ไป Queenstown ก็ถือว่าดีมาก ไม่มีหลุมบ่อให้ต้องหักลบ ถึงแม้ทางจะแคบไปนิด แต่ก็ขับสบาย อย่างที่บอกแล้วว่า รถแทบจะไม่มี และเส้นทางก็ไม่ชันมาก ถึงแม้จะมีทางขึ้น-ลงเขาเป็นระยะๆ สำหรับมือใหม่หัดขับก็น่าจะพอขับได้ไม่อันตรายอะไร ถ้าไม่ประมาท โดยเฉพาะสะพานที่มีเครื่องหมายว่า One Lane Bridge ซึ่งหมายถึง สะพานที่มีเลนเดียว เราต้องมองดูก่อนว่ารถที่สวนทางมายังไม่ข้ามสะพานมา ถึงจะขับผ่านไปได้ ไม่เช่นนั้นก็จะไปจ๊ะเอ๋กันกลางสะพาน ที่นี่เขาประหยัดครับ คือแทนที่จะสร้างสะพานให้แล่นสวนกันได้ กลับสร้างแค่สะพานเลนเดียว ก็แปลกดี ส่วนการใช้วงเวียน (Roundabout) จะมีเครื่องหมาย Give Way เมื่อเราขับมาถึงวงเวียนต้องดูว่ารถในวงเวียนทางขวามือเรามีหรือเปล่า ถ้ามีต้องให้เขาไปก่อนเราถึงจะขับเข้าไปในวงเวียนได้ ถ้าไม่แน่ใจเรื่องเครื่องหมายและกฏหมายจราจรของเขาลองเข้าไปศึกษาก่อนได้ที่ Land Transport NZ

          สิ่งที่ควรทำอย่างยิ่งสำหรับการขับรถเที่ยวเองก็คือ ต้องหาแผนที่ติดรถไว้เลย ซึ่งสามารถขอได้ฟรีตามศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยว (i-SITE) หรือลองเข้าไปดูที่ website นี้ Visitor Information (i-SITE) ซึ่งจะมีสำนักงานอยู่แทบทุกเมือง ถ้าเห็นเครื่องหมาย i-SITE ให้แวะเข้าไปได้เลย ศูนย์ข้อมูลนี้จะมีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการแก่นักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจองที่พัก หรือจำหน่ายบัตรเข้าชมสถานที่ต่างๆ เรียกได้ว่า ถ้าอยากรู้อะไรเกี่ยวกับการท่องเที่ยว เรื่องอาหารการกิน แวะเข้าไปถามได้เลย แล้วท่านก็จะขับรถเที่ยวนิวซีแลนด์อย่างมีความสุขครับ